จริงๆโปรเจคนี้ได้มาแบบไม่ตั้งใจคือตอนแรกตั้งใจว่าจะมาซื้อมาวาดรูปแทนiPadProเพราะดูไม่น่าจะชนะประมูล แต่iPadดันชนะประมูลแล้วเจ้าตัว9250ก็กดสั่งไปแล้วเลยต้องจำใจใช้มันทั้งคู่
เจ้าตัว9250ที่ได้มาเป็นเครื่องนอกจากUSโดยจะบอกว่าเป็นlaptopหรือnotebookก็พูดได้ไม่เต็มปากจะบอกเป็นtabletก็ไม่ได้ เอาเป็นว่ามันเป็นลูกครึ่งละกัน โดยสเปกที่ได้มาก็ไม่ธรรมดา คือจอ4K และconnector 2ช่องแบบthunderbolts 3.0 บอดี้แมกนีเซียมcoating soft touchingผิวสัมผัสจะออกเป็นกึ่งๆยางจับแน่นไม่ลื่นหลุดมือ คีย์บอร์ดเป็นแบบlaptopไม่ใช่แบบบางเบาแบบtabletมีไฟ ดูสเปกเต็มๆดีกว่า
CPU CoreM5-6Y54
GPU Intel HD 515
Ram 8GB
SSD 128GB
Display 12.5 4K Multitouch
Camera 5MP(F),8MP(R)
Connection USB C(Thunderbolt 3.0) x2, Micro SD Card, Jack3.5mm
Network Intel Wireless AC8260 WiFi, Bluetooth 4.1
OS Windows 10Home
Battery 3Cell
สเปกที่ว่ามาก็ถือว่าไม่ธรรมดานะ ถ้าเน้นใช้งานทั่วไปพกพาไปได้ทุกที่ เน้นพรีเซนงานหรือจดโน๊ตเป็นหลัก เพราะถ้าเน้นไปProcessใหญ่ๆหนักๆยังไงก็สู้พวกCore Iไม่ได้ เออรุ่นนี้มีmodelแฝดกับlatitude 7275ที่ทุกอย่างเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วแตกต่างกันแค่CPU,OS,และCellular โดย7275จะใช้CPUเร็วกว่านิดนึงและOS10Proส่วนภาคCellมีให้เลือกเป็นOptionเสริม
การออกแบบตัวเครื่อง
แยกร่างได้
ชาร์จไฟผ่านUSB Cแต่ต้องใช้ที่ชาร์จแบบแรงดันไฟ20V 30Wขึ้นไปไม่งั้นชาร์จไม่เข้า
โดยส่วนตัวผมชอบนะการออกแบบอย่างนี้เหลี่ยมๆง่ายๆไม่ต้องมีลูกเล่นเยอะ
เคสที่มาพร้อมเครื่องเป็นกำมะหยี่ภายในเหมือนจะเป็นวัสดุกึ่งยางลื่นๆแล้วภายในเป็นแม่เหล็ก เกาะติดเครื่องได้เลยขอบอกว่าเกือบดีเพราะแม่เหล็กที่มีมาแรงยึดเกาะไม่เบาก็จริง แต่ก็ไม่แรงพอที่จะจับอยู่แบบไม่ขยับเขยื้อน
ไฟBacklitสว่างเพียงพอสำหรับการใช้งานในที่มืด
ประสิทธิภาพเครื่องโดยการtestกับapp benchmarkยอดนิยมอย่างAntutuก็ได้คะแนนไม่น้อยที่193199คะแนน โดยCPUนี่คะแนนแรงมาก89395แรงมาก แต่คะแนน3Dนี่ยังแค่เอาตัวรอดได้27725ทั้งนี้ที่คะแนน3Dได้น้อยน่าจะมาจากจอ4Kด้วย
ส่วนการใช้งานดูหนังนั้นโดยส่วนตัวผมชอบดูหนังผ่าน9250มากกว่าiPadProเพราะอาจจะขนาดสัดส่วนหน้าจอที่เป็นแบบ16:9ที่คุ้นเคยเหลือขอบดำข้อนข้างน้อยกว่า แล้วจอตัวนี้ผู้ผลิตคือSharpสีจอบอกได้ว่าถูกจริตผมในการดูหนังดูรูปมากกว่าจอiPadPro12.9ที่ใช้วาดรูปอีก แต่เรื่องการดูหนัง4Kจริงๆใน9250นั้นผมไม่รู้ว่าต้องดูผ่านappอะไรภาพและเสียงถึงจะไม่มีปัญหาเพราะappบางตัวภาพลื่นแต่เสียงเน่าบางตัวภาพเน่าเสียงดีเลยยังไม่มีโอกาสได้จริงจังกับการดู4Kใน9250 แต่ถ้าเป็นFHDนี่ดูบนจอ4Kในขนาดจอ12.5นี่มันคมชัดกว่าจอ40นิ้วปกติทั่วไปแบบเทียบไม่ได้เลย แล้วคราวนี้มาในส่วนที่ผมใช้งานtabletบ่อยสุดคือการอ่านE-book,PDFหรือการ์ตูน
edge ของMicrosoftใช้งานได้ดีแต่ยังไม่สุดกับการใช้งานแบบtouchscreen
การอ่านE-book,PDFหรือแม้แต่การอ่านการ์ตูนบนจอ9250ถือว่าคมชัดเพราะอานิสงส์4Kแต่การอ่านการ์ตูนบนสัดส่วนจอ16:9ถ้าเทียบกับสัดส่วน4:3ในiPadPro12.9แล้วiPadอ่านสบายตากว่า แต่ถ้าอ่านพวกเอกสารหรือบทความที่มีแต่ตัวอักษรหนังสือ ผมกลับชอบที่จะอ่านบน9250มากกว่าในiPad
อ่านการ์ตูนเทียบกับiPad
การใช้งานแบบtabletของwin10นั้นค่อนข้างที่จะบรรลัยทั้งช้าและกระตุกแต่ในmode desktopกับลื่นซะหัวแตกแถมการRotationจอก็เดียวใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ในMicrosoft storeมีappที่ค่อนข้างครบเมื่อเทียบกับAndroid และiOSแต่เรื่องคุณภาพappยังคงเป็นรองอยู่ แต่ก็มีข้อดีที่ระบบต่างๆของwin10นั้นค่อนข้างยืดหยุ่นในการลงโปรแกรมต่างๆ การเชื่อต่ออุปกรณ์อื่นที่ค่อนข้างจะมีปัญหาน้อยเหมาะแก่การใช้งานด้านpresentationแต่ทั้งนี้ก็ต้องมีadapterแปลงจากUSB Cไปเป็นUSBแบบปกติเสียก่อนเพราะรุ่นนี้ใส่มาแค่USB CแบบThunderbolt3มา2ช่องเลย การใช้งานทั่วไปแบตเตอรี่อยู่ได้ค่อนข้างนานคือ6-8ชั่วโมงครับถือว่านานเอาเรื่อง อุณหภูมิตัวเครื่องขณะจับถือนั้นรู้สึกถึงความอุ่นที่ทะลุผ่านเคสมาเลยทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ร้อนแถมความเร็วไม่ตกด้วย จริงๆiPadProที่ใช้อยู่ก็ร้อนพอๆกันนะแต่การวางLayout CPUภายในเครื่องAppleทำได้ดีกว่าโดยส่วนที่ร้อนนั้นอยู่ในจุดที่คนทั่วไปจับไม่โดน ส่วนเรื่องที่น่าติเลยก็คือระบบsecurityนั้นไม่มีFingerprint Readerมาให้ คือเครื่องระดับนี้มันควรจะมีมาให้แล้วนะ
เทียบขนาดจอระหว่างDell 12.5อัตราส่วน16:9 กับ Apple 12.9อัตราส่วน4:3
สรุป ผมว่าXPS9250เครื่องนี้เหมาะกับสายentertainmentที่ต้องทำงานแบบเดินทางบ่อยไปด้วย เหมาะแก่การpresentationจดบันทึก แม้จะentertainsสู้iPadไม่ได้แต่การใช้งานทั่วไปและการเชื่อมต่อwin10ยังได้เปรียบtabletของAppleและAndroidแน่นอน
ข้อดี
1จอ4Kสวยแจ่ม
2วัสดุแข็งแรงงานประกอบดี
3ลำโพงดังเสียงดี
4ความยืดหยุ่นในการใช้งานของwin10
5Thunderbolt3มีมา2ช่อง
6แบตที่อยู่ทนนานต่อการใช้งาน
ข้อเสีย
1อุณหภูมิสูงไปหน่อย
2เคสผ้าแม่เหล็กที่อ่อนแรง
3เป็นUSB Cถึง2ช่องต้องหาadapterแปลงเป็นUSBธรรมดา
4ไม่มีFingerprint Reader