วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561

Review Samsung Galaxy S9Plus(SD845)

          หลังจากที่เคยใช้Samsung Galaxy S2ก็ไม่เคยหวนกลับไปแตะSamsungอีกเลยเพราะCPU Exynos และSoftwareสมัยนั้นบอกเลยว่าไม่ดีเอามากๆยิ่งtouch wizยิ่งทำให้เครื่องช้าและค้างบ่อยและมีAppที่ทางSamsung ใส่มาให้เยอะจนไม่ได้ใช้ที่เรียกติดปากว่าAppขยะ จนมาถึงการเปิดตัวS8และNote8เมื่อปีที่แล้วถึงทำให้หันกลับมามองSamsungใหม่อีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ซื้อเพราะปีที่แล้วติดว่ามีโปรเจ็คจะสอยIPad Proก็เลยเลื่อนมาปีนี้ หลังจากได้ลองจับๆเล่นทั้งS8และNote8มาจากปีที่แล้วมีความรู้สึกว้าวจากเมื่อก่อนมาก เร็วและเสถียรขึ้นมากแต่…โดยส่วนตัวก็ยังไม่ค่อยไว้ใจในตัวExynosของทางSamsungจึงได้หาตัวSnapdragonของQualcommมาใช้แทนถึงแม้Qualcommจะเคยพลาดตัว808และ810ที่ร้อนบรรลัยแต่ไม่ดับไม่ตายไม่เอ๋อ ดังนั้นผมจึงได้เครื่องHKมา

โดยอุปกรณ์ในกล่องแตกต่างจากversionที่ขายในไทยแค่ที่ชาร์จไฟครับ


           Functionหลักๆไม่แตกต่างจากเครื่องที่ใช้CPU Exynos แต่โดยสิ่งที่ว้าวมากขึ้นสำหรับคนที่เคยใช้S2มาแล้วกระโดดมาใช้S9+คืออย่างแรกที่เห็นเลยคือสีหน้าจอที่ไม่สดเวอร์ ต่อมาคือTouch Wizไม่รกหูรกตาไม่มีAppเยอะจนรกเหมือนเมื่อก่อน และสุดท้ายคือกล้องที่เรียกได้ว่าดีมากๆ 

           ส่วนสำหรับชาวGeekที่บ้าSpecว่าแตกต่างจากตัวExynosขนาดไหนก็ชมBenchmarkได้เลยครับ แล้วจะทดสอบกับเกมRovที่เป็นเบอร์1ที่คนที่มีsmartphonesชาวไทยส่วนใหญ่ต้องรู้จัก ว่าถ้าเปิดสุดทุกอย่างจะวิ่งที่60fpsแบบนิ่งๆไหม



โดยฝั่งซ้ายจะเป็นของSD845ส่วนข้างขวาจะเป็นของExynosครับ



ทดสอบfpsเกมRov

            เมื่อทดสอบเกมนานๆหรือbenchmark หนักๆเป็นเวลานานๆตัวเครื่องจะอุ่นขึ้นมาจนรู้สึกได้เลยแต่ไม่ได้ร้อนจนรู้สึกรำคาญแต่อย่างใด(มันคงไม่น่ามีSD8XX Series ตัวไหนร้อนไปกว่า810แล้วหละ)

            คราวนี้มาต่อที่เรื่องกล้องดีกว่าว่าจะจัดเต็มขนาดไหน โดยในS9/S9+นี้มีลูกเล่นใหม่คือปรับค่ารูรับแสงได้หรือค่าFนี่แหละคนเล่นกล้องจะรู้กันดี โดยที่ปรับได้เฉพาะแค่ตัวเลนส์มุมกว้างที่ปรับได้เป็น1.5/2.4เท่านั้นครับไม่สามารถปรับระเอียดเป็น1.8,2.0หรือ2.2ได้เพราะเท่าที่ดูจากสือเมืองนอกที่เค้าแงะออกมาคือใช้ระบบแม่เหล็กดึงเข้าดึงออกครับ ส่วนเลนส์teleที่มีในS9+จะเป็นค่าFแบบFixที่2.4ครับ(คาดว่าในNote9น่าจะปรับค่าFได้ทั้ง2เลนส์ครับ)


           การจะปรับค่าFได้ต้องเข้าไปปรับที่Mode Proเท่านั้นครับ โดยกล้องที่มาจากทางโรงงานจะมีModeให้เลือกมาไม่ครบต้องเข้าไปในEdit Camera Modeในsettingของตัวกล้องครับ(อันนี้ของเครื่องHKนะ ไม่แน่ใจว่าของไทยจะต่างกันไหม) มาดูภาพจากS9+กันครับ

เปิดรูปแรกด้วยF1.5


ส่วนรูปถัดมาที่F2.4

และต่อจากนี้Autoล้วนๆครับ


















ส่วนรูปนี้จากMode Panorama 


มาถึงจุดที่คนสนใจเรื่องกล้องคู่หรือระบบLive Focusครับ

การเบลอขอบเข้ามุมต่างๆทำได้ดีครับแต่ก็มีที่พลาดบ้างถ้าหามุมได้พอดีๆจัดว่าเนียนครับ
          ส่วนของVideoนั้นทางปีนี้Samsungได้ยกSuper slow motionไม้เด็ดของXperiaทางSonyมาเต็มๆ เพื่อมาเติมfunctionของตัวเองให้เต็ม

          ลองมาดูSuper Slowที่960fpsที่720P



          ที่Full HDที่240fps



           ส่วนเรื่องกล้องหน้า.....มันก็ดีนะแต่ไม่ได้ทดสอบเพราะหาตัวแบบไม่ได้เลยขอยกไว้ก่อนละกัน แล้วก็เรื่องลูกเล่นAR Emojiมันก็ทำหน้าออกมาได้.....ไม่ค่อยเหมือนนะคือผมว่ายังไม่ค่อยดีทั้งการตอบสนองและการเคลื่อนไหวของใบหน้าแต่ก็ใช้สำหรับส่งกวนตีนเพื่อนๆได้อยู่ครับถ้าเทียบกับiPhone Xแล้วยังตามหลังอยู่เยอะแต่iPhone Xไม่มีทำเป็นหน้าเราเองนะ





          หลังจากที่ว้าวเรื่องหลักๆไปแล้วส่วนการใช้งานอย่างอื่นผมก็เฉยๆนะเช่นว่าไร้ปุ่มHomeกันน้ำได้มีNFCหรือแม้แต่ลำโพงคู่....ซึ่งผมใช้Sony Xperia Z3+เครื่องร้อนนรกบรรลัยแตกเพราะQualcomm SD810มันมีอะไรที่กล่าวมาก่อนหน้านี้หมดเลย เพราะงั้นส่วนต่างๆที่เหลือผมก็เลยไม่ว้าวเท่าไหร่ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ที่S9plusให้มา3500แอมป์ใช้งานในวันทั้งวันเหลือๆครับถ้าไม่ได้เล่นRovตลอดเวลานะ และในฐานะuserที่ซื้อมาใช้เองอาจจะไม่ได้ใช้ทุกfeaturesทุกอย่างที่มันใส่มาตามแบบเพจดังที่reviewแบบเจาะลึกเพราะงั้นอาจจะไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากมายเท่าเพจเหล่านั้นครับ
           
          คราวนี้มาดูข้อเสียหลักๆของเครื่องนอกนะครับโดยที่เครื่องผมเป็นversion HK Snapdragonสิ่งแรกที่ผมเจอเลยคือใช้Samsung Payไม่ได้ครับคือมันจะไม่เข้าหน้าประเทศไทยให้มันจะดิ่งตรงเข้าหน้าHKเลยแล้วAdd credit cardไทยไม่ได้ครับ แล้วอย่างที่2คือใช้VoLTEไม่ได้ครับ แล้วอย่างที่3 Galaxy Gift ในหน้า”ดีลเฉพาะคุณ”จะไม่ได้สิทธิ์เหมือนเครื่องไทยครับ แล้วที่ไม่ค่อยชอบอีกนิดนึงคือระบบintelligent scan คือจริงๆมันก็ดีนะแต่มันต้องยื่นโทรศัพท์ออกห่างจากหน้าเราประมาณ1ฟุตหน่อยๆเลยถึงจะปลดล๊อกได้บางทีตอนนอนเล่นแอบมีลำบากเหมือนกัน แล้วตัวเครื่องที่อุ่นขึ้นง่ายเปิดกล้องแปปๆมีอุ่นๆแล้วแต่ถึงแม้จะอุ่นเร็วขนาดไหนประสิทธิภาพก็ไม่ตกนะครับยังลืนๆเหมือนตอนยังไม่อุ่นเลย แล้วสุดท้ายการติดฟิล์มกันรอยเป็นเรื่องที่แม่งโคตรจะยุ่งยากแล้วเสียหายง่ายที่สุดจากทั้งตัวจอที่โค้งที่ขอบแล้วเคสที่ดันฟิล์มให้เผยอ สุดท้ายถ้ารับข้อเสียได้ก็จัดเถอะผมว่าคุ้มนะ




*ส่วนตัวลึกๆรอดูHTC U12และNote9ว่าจะว้าวไหม ถ้าดูแล้วแจ่มแมวอาจจะขายเครื่องนี้ทิ้งแล้วไปลองซื้อมาเล่นบอกเล่าต่อให้ฟังครับ